ๆ อยู่นาน ธอร์เพลิดเพลินกับสายลมเปียกชื้นขณะที่ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย
ในที่สุดธอร์ก็รู้ว่าพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังเกาะแห่งหนึ่งโดยเฉพาะ มันเริ่มใหญ่ขึ้น ธอร์รู้สึกหนาวสะท้านเมื่อรู้ว่ามันคือจุดหมายปลายทางของพวกเขา
“เกาะแห่งหมอก” เจ้าชายรีซตรัสอย่างยำเกรง
ธอร์มองดูอย่างสงสัย มันเริ่มมองเห็นเป็นรูปเป็นร่าง เป็นหินและชะง่อนผา ดูแห้งแล้ง และทอดตัวเหยียดยาวไปหลายไมล์ในทุกทิศทุกทาง ยาวและแคบ รูปร่างเหมือนกับเกือกม้า คลื่นลูกใหญ่ซัดกระแทกชายหาด เสียงดังจนได้ยินจากตรงนี้ เกิดฟองคลื่นซัดสาดเมื่อมันซัดกระแทกหินก้อนใหญ่ มีแนวพื้นดินเล็ก ๆ ด้านหลังแนวก้อนหิน จากนั้นจึงเป็นหน้าผาสูงชันเสียดฟ้า ธอร์ไม่เห็นทางเลยว่าเรือของพวกเขาจะสามารถเข้าเทียบได้อย่างปลอดภัย
หมอกสีแดงที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ทั่วเกาะนี้ เหมือนน้ำค้างที่เป็นประกายในแสงแดด ยิ่งทำให้มันดูแปลกประหลาด ให้ความรู้สึกน่าขนลุก ธอร์รู้สึกถึงบางอย่างที่โหดร้ายและเหนือธรรมชาติในเกาะแห่งนี้
“พวกเขาบอกว่ามันอยู่รอดมาหลายล้านปี” โอคอนเนอร์บอก “มันเก่าแก่กว่าอาณาจักรวงแหวน และเก่าแก่ยิ่งกว่าจักรวรรดิเสียอีก”
“มันเป็นของมังกร” เอลเด็นเสริม พลางก้าวมายืนข้างเจ้าชายรีซ
ขณะที่ธอร์กำลังมองอยู่นั้น จู่ ๆ อาทิตย์ดวงที่สองก็เคลื่อนไปเร็วบนท้องฟ้า ในไม่ช้าเวลากลางวันที่มีแสงแดดและสดใสก็กลายเป็นยามอาทิตย์อัสดง ท้องฟ้าแต้มไปด้วยสีแดงและม่วง เขาไม่อยากจะเชื่อเลย ธอร์ไม่เคยเห็นดวงอาทิตย์เคลื่อนที่เร็วเช่นนี้มาก่อน