และถ้าไม่ใช่เพราะคนเฝ้าประตู กลุ่มชายผู้กล้าหาญของพ่อที่คอยดูแลรักษากำแพงอัคคี ป่านนี้เอสคาลอนคงตกเป็นทาสของโทรลไปแล้ว พวกโทรลกลัวน้ำ มันสามารถโจมตีเอสคาลอนบนพื้นดินได้เท่านั้น และกำแพงอัคคีคือสิ่งเดียวที่คอยสกัดกั้นพวกโทรลไว้ ผู้รักษาประตูจะคอยเฝ้าระวังกันเป็นกะ ผลัดเปลี่ยนเวรเดินลาดตระเวน และแพนดีเซียต้องการพวกเขา ยังมีพวกอื่นที่ประจำการอยู่ที่กำแพงอัคคีเช่นกัน ทั้งเหล่าทหารเกณฑ์ ทาสและอาชญากร แต่ผู้รักษาประตูของพ่อคือทหารคนสำคัญ และเป็นเพียงผู้เดียวที่รู้ว่าต้องดูแลรักษากำแพงอัคคีอย่างไร
เพื่อเป็นการตอบแทน แพนดีเซียจึงอนุญาตให้โวลิสได้รับอิสรภาพในเรื่องบางอย่างภายใต้ขอบเขตของการอนุญาต เช่น สนามซ้อมรบแห่งนี้และอาวุธจริง รสชาติของอิสรภาพอันเล็กน้อยที่พอทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนเป็นนักรบเสรี แม้ว่ามันคือภาพลวงตาก็ตาม เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าพวกเขาไม่ใช่เสรีชน พวกเขาใช้ขีวิตด้วยความอึดอัดระหว่างอิสรภาพและความเป็นทาส ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องยอมอดทน
แต่ในประตูนักรบแห่งนี้ อย่างน้อยพวกเขาก็ได้เป็นอิสระในแบบที่เคยเป็น เหล่านักรบสามารถชิงชัย ฝึกฝนและเพิ่มพูนทักษะ พวกเขาเป็นตัวแทนที่ดีที่สุดของเอสคาลอน ดีกว่านักรบที่แพนดีเซียมี พวกเขาคือทหารผ่านศึกของกำแพงอัคคี ทั้งหมดผลัดกันเข้าเวรที่นั่น ไคร่าไม่ต้องการสิ่งใดมากไปกว่าการเข้าร่วมกับพวกเขา