บ้างก็นั่งเรียงรายอยู่ตามโต๊ะไม้ ส่งเสียงตะโกนโหวกเหวก หัวเราะ ด่าทอและชกต่อยกัน อีเร็คมองออกทันทีว่าคนพวกนี้เป็นพวกดิบเถื่อน มีพุงใหญ่ หนวดเคราไม่โกน เสื้อผ้าไม่ได้ซัก ไม่มีใครเป็นนักรบเลยสักคน
อีเร็คเดินเข้าไปหลายก้าว พลางมองหานาง เขาคิดไม่ออกเลยว่าสตรีเช่นนางจะสามารถทำงานในสถานที่เช่นนี้ได้ เขาสงสัยว่าพวกเขาอาจจะมาผิดที่
“ขอโทษที ท่าน ข้ากำลังตามหาสตรีนางหนึ่ง” อีเร็คบอกกับชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างเขา เขาเป็นชายร่างสูงใหญ่ มีพุงใหญ่และไม่โกนหนวดเครา
“อย่างนั้นหรือ?” ชายคนนี้ตะโกนอย่างล้อเลียน “แหม ท่านคงมาผิดที่แล้วล่ะ! ที่นี่ไม่ใช่ร้านนางโลม แต่มีอยู่ร้านหนึ่งที่อีกฟากของถนน ข้าได้ยินว่านางโลมที่นั่นทั้งขาวทั้งอวบ!”
ชายคนดังกล่าวหัวเราะเสียงดังใส่หน้าอีเร็ค โดยมีเพื่อนอีกหลายคนผสมโรงด้วย
“ข้าไม่ได้ตามหาร้านนางโลม” อีเร็คตอบ ไม่ตลกด้วย “แต่ข้าตามหาสตรีนางหนึ่ง ที่ทำงานที่นี่”
“งั้นเจ้าคงหมายถึงคนรับใช้ของเจ้าของโรงแรม” มีเสียงอีกคนร้องบอก เขาเป็นขี้เมาร่างใหญ่อีกคนหนึ่ง “นางอาจจะอยู่ที่ไหนสักแห่งด้านหลัง อาจจะกำลังขัดพื้น น่าเสียดาย…ข้าอยากให้นางอยู่ที่นี่ บนตักข้าเนี่ย!”
บรรดาขี้เมาต่างระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ขำขันกับมุขตลกของพวกเขา ขณะที่อีเร็คหน้าแดงเมื่อคิดถึงมัน เขารู้สึกอายแทนนาง ที่ต้องมารับใช้คนประเภทนี้ มันช่างเสียศักดิ์ศรีเกินกว่าที่เขาจะคิดถึง
“แล้วเจ้าเป็นใครกัน?” มีเสียงถามขึ้น
ชายคนหนึ่งก้าวออกมา