ทหารและสมาชิกสภาโต้เถียงกัน เกิดชุลมุนไปทั่ว
ผู้นำสภากระแทกไม้เท้าเหล็กของเขากับพื้นหิน แล้วตะโกนขึ้น
“เป็นระเบียบหน่อย!”
ภายในห้องค่อยเงียบเสียงลงทีละน้อย ทุกคนหันมามองที่เขา
“เรื่องเหล่านี้เป็นการตัดสินพระทัยของราชา ไม่ใช่พวกเรา” สมาชิกสภาคนหนึ่งกล่าวขึ้น “ราชากาเร็ธทรงเป็นราชาโดยชอบธรรม และไม่ใช่พวกเราที่จะต้องมาหารือเรื่องเงื่อนไขการยอมจำนน...หรือจะยอมจำนนหรือไม่”
ทุกคนต่างหันไปหาราชากาเร็ธ
“ฝ่าบาท” อะเบอร์ธอลทูล น้ำเสียงเหน็ดเหนื่อย “พระองค์จะเสนอให้พวกเราจัดการอย่างไรกับกองทัพของจักรวรรดิ?”
ภายในท้องพระโรงเงียบสนิท
ราชากาเร็ธประทับอยู่เช่นนั้น ทอดพระเนตรดูประชาชนของพระองค์ ทรงอยากจะตอบ แต่มันยิ่งยากมากขึ้นที่จะทำสมองให้ปลอดโปร่ง พระองค์ทรงได้ยินพระสุรเสียงของพระบิดาในพระเศียร ทรงตะโกนใส่พระองค์ เหมือนเช่นครั้งที่ยังทรงพระเยาว์ มันทำให้พระองค์ทรงคลั่ง และเสียงนั้นก็ไม่ยอมหายไป
ราชากาเร็ธทรงจับเท้าพระกรของบัลลังก์แล้วครูดมันครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงพระนขาข่วนเท้าพระกรเป็นเสียงเดียวภายในห้อง
สมาชิกสภาต่างมองดูกันด้วยความกังวล
“ฝ่าบาท” สมาชิกสภาอีกคนทูลขึ้นทันที “หากพระองค์เลือกที่จะไม่ยอมจำนน เช่นนั้นเราก็จะต้องป้องกันราชสำนักให้แข็งแกร่งทันที เราจะต้องระวังทางเข้าทุกแห่ง ถนนทุกสาย ประตูทุกบาน เราจะต้องระดมพลทั้งหมดเพื่อเตรียมการป้องกัน พวกเราจะต้องเตรียมการโจมตี การปันส่วนอาหาร