นางจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการคัดเลือกรัชทายาท แต่ก็อดฟรีย์ โอรสคนกลางวัยสิบแปดปี ก็หายตัวไป ราชาแม็คกิลทรงหน้าแดงด้วยความกริ้ว
นับตั้งแต่ก็อดฟรีย์ยังเป็นเด็ก เขาก็แสดงความไม่สนใจในราชบัลลังก์ เป็นที่เห็นได้ชัดเจนมาตลอดว่าเขาไม่สนใจและไม่ต้องการ และที่ราชาแม็คกิลทรงเสียพระทัยอย่างยิ่งคือการที่ก็อดฟรีย์เลือกที่จะทิ้งชีวิตไปในโรงเหล้ากับเพื่อนเสเพล ทำให้ราชวงศ์ต้องอับอายและไร้เกียรติ เขาเป็นคนเกียจคร้าน นอนเกือบทั้งวัน เวลาที่เหลือก็หมดไปกับการดื่มเหล้า ใจหนึ่งทรงโล่งอกที่เขาไม่มาอยู่ที่นี่ด้วย แต่อีกใจทรงรู้สึกว่าเป็นการดูหมิ่น ที่จริงทรงคาดการณ์เรื่องนี้ไว้แล้ว และได้ส่งทหารออกไปค้นหาตามโรงเหล้าแล้วนำตัวกลับมา พระราชาประทับอยู่เงียบ ๆ รอคอยจนกระทั่งพวกทหารกลับมาถึง
ประตูไม้โอ๊คบานหนาเปิดออก และพวกทหารเดินแถวเข้ามา ลากก็อดฟรีย์เข้ามาด้วย ทหารดันเขาออกมา ก็อดฟรีย์ถลาเข้ามาในห้องเมื่อทหารปิดประตูตามหลัง
พี่น้องคนอื่น ๆ หันไปมอง ก็อดฟรีย์สกปรก เหม็นกลิ่นเหล้าคลุ้ง ไม่โกนหนวดเคราและแต่งตัวไม่เรียบร้อย เขายิ้มกลับมา อวดดีเหมือนเช่นเคย
“สวัสดี พระบิดา” ก็อดฟรีย์ทูล “นี่ข้าพลาดความสนุกอะไรไปหรือเปล่า?”
“เจ้าจะต้องยืนอยู่กับพี่น้องของเจ้า แล้วรอให้ข้าพูด ถ้าหากเจ้าไม่ทำ พระเจ้าช่วยด้วยเถอะ ข้าจะล่ามเจ้าไว้ในคุกใต้ดินรวมกับนักโทษคนอื่น