ถูกแล้ว คดีนั้นมันโหดสุดๆไปเลย เธอต้องการเวลานอก และอาจต้องยอมรับความจริงว่าเธออาจไม่ได้กลับมาอีก
แต่บิลก็ต้องการเธอจริงๆในเวลานี้ ไรล์ลี่นั้นฉลาดกว่าเขามากและตัวเขาเองก็ไม่มายด์ที่จะยอมรับในเรื่องนี้ เขาชอบดูวิธีการคิดเวลาทำคดีของเธอ เขาลองนึกภาพเธอเก็บข้อมูลซีนที่เกิดเหตุนี้ ในทุกรายละเอียดทุกเม็ด ถึงตอนนี้เธอคงต้องล้อเขาแล้วที่มองไม่เห็นร่องรอยที่แสนจะชัดเจนราวกับประเคนอยู่ตรงหน้าแบบนี้
อะไรที่คิดว่าไรล์ลี่จะค้นพบในขณะที่เขามองข้าม?
เขารู้สึกไปไม่เป็น และเขาก็ไม่ชอบความรู้สึกนี้เลย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้แล้วตอนนี้
“เอาหละ พวกคุณ” บิลตะโกนออกไปบอกตำรวจคนอื่นๆ “เคลื่อนย้ายศพได้”
ตำรวจพวกนั้นหัวเราะและแปะมือกันรัวๆ
“คุณว่ามันจะก่อเหตุอีกมั้ย?” สเปลเบร็นถามขึ้นมา
“แหงอยู่แล้ว” บิลตอบ
“คุณรู้ได้ยังไง?”
บิลหายใจเข้ายาวก่อนตอบ
“เพราะผมเคยเห็นผลงานมันมาก่อนน่ะสิ”
บทที่ 2
“มันแย่ลงทุกวันสำหรับเธอ” แซม ฟลอเรส พูดขึ้น พร้อมดึงอีกภาพอันน่าขนพองสยองเกล้าขึ้นมาบนจอโปรเจ็คเตอร์ผ่านเลนส์เครื่องฉายมัลติมีเดียที่ห้อยอยู่เหนือโต๊ะประชุม “ไล่มาจนถึงตอนที่มันเก็บเธอเลย”
บิลก็เดาไว้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ แต่เขาก็ยังเกลียดที่เขาคิดถูก
องค์กรได้ส่งร่างของเธอไปที่หน่วยวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากรในควอนติโก้